สภาพกัมมันตรังสี ของ ฟูกูชิมะ 50

ขีดจำกัดของปริมาณรังสีของผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ระหว่างประเทศอยู่ที่ 20 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี โดยเฉลี่ยมากกว่าห้าปี โดยมีขีดจำกัดอยู่ที่ 50 มิลลิซีเวิร์ตในปีใดปีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับคนงานซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ฉุกเฉินตามแนวปฏิบัติของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (EPA) นั้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ 100 มิลลิซีเวิร์ตเมื่อ "กำลังปกป้องทรัพย์สินที่มีค่า" และ 250 มิลลิซีเวิร์ตเมื่อกิจกรรมนั้นเกี่ยวข้องกับ "การช่วยชีวิตหรือการปกป้องประชากรขนาดใหญ่"[12]

ก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุ ปริมาณจำกัดที่ได้รับอนุญาตสำหรับคนงานนิวเคลียร์ญี่ปุ่นอยู่ที่ 100 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี แต่หลังจากวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554 กระทรวงสาธารณสุขและแรงงานญี่ปุ่นได้อนุญาตขีดจำกัดที่ 250 มิลลิซีเวิร์ต จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะแห่งที่หนึ่ง[13][14]

ตามข้อมูลของเดอะการ์เดียน คนงานฟูกูชิมะจำเป็นจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นเฉียบพลันของกัมมันตรังสี ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้[15] อันตรายนี้ทำให้ต้องมีการอพยพคนงานเป็นการชั่วคราวเมื่อเช้าวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554 เมื่อปริมาณกัมมันตรังสีซึ่งตรวจวัดได้ที่ฟุกุชิมะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1000 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง[16] ซึ่งเป็นกัมมันตรังสีระดับสูงสุดที่ตรวจวัดได้หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น

คนงานสวมชุดและหน้ากากป้องกันสารเคมี ถือเครื่องวัดสารกัมมันตรังสีซึ่งจะเตือนที่ 80 มิลลิซีเวิร์ต คนงานแต่ละคนจะต้องหยุดทำงานเมื่อเครื่องวัดดังกล่าวเตือน[17] ตามข้อมูลของบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว มีคนงาน 7 คนที่ได้รับปริมาณรังสีเกินขีดจำกัด 100 มิลลิซีเวิร์ตในช่วงเช้าของวันที่ 20 มีนาคม ซึ่งทั้งหมดเป็นคนงานของบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว[18]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ฟูกูชิมะ 50 http://www.theaustralian.com.au/nameless-samurai-a... http://www.asahi.com/national/update/0318/TKY20110... http://www.cbsnews.com/stories/2011/03/15/501364/m... http://www.cbsnews.com/stories/2011/03/16/eveningn... http://www.foxnews.com/world/2011/03/16/fukushima-... http://abcnews.go.com/International/fukushima-50-l... http://abcnews.go.com/m/story?id=13147746&sid=76&p... http://www.hindustantimes.com/More-volunteers-prep... http://sankei.jp.msn.com/affairs/news/110320/dst11... http://sankei.jp.msn.com/affairs/news/110325/dst11...